วันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ปรองดอง

วันนี้ผมได้เอาเรื่องราวตอนหนึ่งที่ได้คุยกับอาจารย์ใหญ่(ภรรยา) มาแบ่งปันกันครับ 55+

ความเดิมคือ... ผมเชื่อว่า "ไม่มีความผิดใด ที่เกิดจากการกระทำที่ถูกต้อง" จะมีก็เพียงแค่... เราไม่ยอมรับกับผลที่ได้จากเหตุเท่านั้นเอง

ในบางที บางครั้ง

"ผลการทำงาน" ของเราออกมายอดเยี่ยมมากเลย แต่ก็มีบางครั้ง บางทีที่......
"ผลการทำงาน" ก็ออกมาต่ำกว่ามาตราฐานเยอะมาก
ทั้งที่เราต่างก็มีประสบการทำงานสูงด้วยกันทั้งนั้น "ผลการทำงาน" มันก็น่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ตามประสบการณ์ อีกทั้ง ...เราก็พยายามและตั้งใจในการทำงานทุกครั้ง ...หรือเปล่า...วิ๊ง..วิ้ง..วิ๊งง (เหมือนคิดอะไรได้)
มีความสงสัยเกิดขึ้นว่า ..."หรือเราทำอะไรผิดพลาดหรือเปล่าที่.."

เราไม่ได้ทำอะไรผิด! หรอกครับ

โลกนี้ มันยุติธรรมเสมอแหล่ะครับ.. จารย์ใหญ่ (เรียกสรรพนามภรรยา ..ในใจ)
นึกสิ... เดือนที่ผลงานต่ำกว่ามาตราฐาน ..ทำงานต่ำกว่ามาตราฐานด้วยหรือเปล่า
นึกสิ... เดือนที่ผลงานยอดเยี่ยม ..ทำงานแบบหัวปักหัวปำด้วยหรือเปล่า มันไม่มีหรอก ...ทำงานน้อยๆ ทำงานนิดๆ ทำงานแบบเช้าชามเย็นชาม ..แล้วผลงานจะออกมา perfect! ผลงาน มันออกมาตามผลการทำงานเสมอ!

ถ้าจะมีอะไรผิดพลาด...

หรือถ้าจะกลับเข้าไปแก้ปัญหา... ให้กลับไปเริ่มแก้ตั้งแต่ วิธีคิดครับ "ความคิด" ถูกส่งไปที่ "การกระทำ" ออกมาเป็น "ผลลัพธ์"

คิดเยอะ ทำน้อย ผลลัพธ์น้อย
คิดน้อย ทำเยอะ ผลลัพธ์เยอะ
คิดเยอะ ทำเยอะ ผลลัพธ์เยอะ ไม่คิด ไม่ทำ ไม่มีผลลัพธ์
เราสังเกตุเหตุปัญหาแล้วใช่ไหมครับว่า... เราเพียงแค่ หาจุดเชื่อมระหว่างความคิด กับการกระทำ ให้มันสอดคล้องกันเท่านั้นเอง เพราะ ผลลัพธ์ เป็นเพียงทาส-บ่าว ที่รอคำสั่งเท่านั้นเอง อย่าไปกังวลกับผลลัพธ์เลยครับ (สงสารมัน มันไม่เกี่ยวอะไรด้วยเลย)
เอาเป็นว่าหาทางปรองดองระหว่าง ความคิด กับ การกระทำ ให้มันไปในทิศทางเดียวกันให้ได้ก็พอครับ

เปลี่ยนความคิดกี่รอบ

ฟังวิชาการกี่หน ....ก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับ ถ้า "ความคิด" กับ "การกระทำ" ไม่ไปในทิศทางเดียวกัน
เรามาทำให้ความคิด กับการกระทำ ไปในทิศทางเดียวกันดีกว่า....

ถูกใจกดไลท์ กดแชร์แบ่งปันกันไปนะครับ
มีคนได้ประโยชน์จากพวกเรา เรามาแบ่งปันกันต่อนะครับ
ในส่วนของการ ปรับจูน ความคิดกับการกระทำ ให้ปรองดองกัน

วันอังคารที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ความจริง 11 ข้อ ..เกี่ยวกับธุรกิจประกันชีวิต




(ที่อาจจะไม่มีใครเคยบอกคุณ)


1.คนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจนี้ ล้วนมุ่งมั่นและทุ่มเท   เหมือนคนสำเร็จทั่วไปในธุรกิจอื่นๆ (ไม่มีข้อยกเว้น)

2.การถูกปฏิเสธเป็นเรื่องปกติ   ทุกเส้นทางของทุกธุรกิจที่มุ่งไปสู่ความสำเร็จ ล้วนมีคำปฏิเสธเป็นอุปสรรคระหว่างทางทั้งนั้น

3.บางครั้งก็ตอบรับ บางทีก็ปฏิเสธ แล้วยังไง.. คุณก็ต้องไปต่ออยู่ดี  เพราะความสำเร็จอยู่ที่ปลายทาง ไม่ใช่ระหว่างทาง  อย่ากังวลหรือดีใจที่มีคนซื้อและมีคนไม่ซื้อ  หน้าที่เราคือ เราก็ต้อง พบคนวันละ 3-5 คน เหมือนเดิม

4.อย่ากลัว การเข้าหาผู้มุ่งหวัง  เพราะแย่ที่สุดคือ เขาจะบอกว่า เขาไม่ซื้อกับคุณ ..เชื่อเถอะว่า อย่างน้อยๆ เขาก็กลัวคุณ มากกว่าที่คุณกลัวเขา  ดังนั้น  จงสนุก! กับการพบผู้มุ่งหวัง

5.จงเตรียมพร้อมใน 90 วันแรก  เพราะดูเหมือนว่าญาติและคนที่รู้จักคุณจะหนีหายไปจากคุณ มันเป็นเรื่องปกติ แต่ที่พวกเขาทำแบบนั้นไม่ใช่เพราะคุณเข้าสู่ธุรกิจประกันชีวิต  แต่เป็นเพราะพวกเขาไม่มั่นใจว่าคุณจริงจังแค่ไหน เขาจึงลังเลและเกรงใจที่จะปฏิเสธคุณ เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหลบหน้าคุณ  แต่ถ้าคุณพิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็นว่าคุณมีความเป็นมืออาชีพ  ภายใน 90 วัน เขาเหล่านั้นจะแนะนำลูกค้าเกรด เอ ให้คุณอย่างแน่นอน

6.อย่ารอ.. ที่จะมีใครสักคนที่สุขภาพแข็งแรง มีฐานะมั่นคง  เดินมาหาคุณ แล้วบอกว่าเขาอยากซื้อประกันชีวิตกับคุณ มันนานกว่า 2 ศตวรรษแล้วที่ความสำเร็จของตัวแทนล้วนมาจากการที่ตัวแทนออกไปพบลูกค้า ไม่ใช่ลูกค้ามาพบตัวแทน  จงจำไว้ว่า.. ทุกๆความสำเร็จ ไม่อาจเกิดได้จากการนั่งรอ

7.แน่นอนว่า รายได้ของคนในธุรกิจนี้ แปรผันโดยตรงกับผลผลิต แต่อย่าเผลอไปจดจ่อที่ผลผลิตเชียว ให้คุณ ใช้พลังทั้งหมด ไปจอจ่อที่ กิจกรรมที่ทำให้เกิดผลผลิตโดยตรง

8.การผิดนัด  เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราเจอกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน การที่ผู้มุ่งหวังนัดแล้วไม่มา ไม่ใช่เขาไม่แยแสคุณ แต่เป็นเพราะพวกเขายังไม่รู้ถึงความสำคัญของการประกันชีวิตที่มีผลโดยตรงต่อตัวเขาเองและครอบครัว  คุณจงใช้ความเป็นมืออาชีพควบคุมอารมณ์ของคุณเอง  และจงรู้ไว้ว่า ตัวแทนมืออาชีพไม่จำเป็นต้องขายได้ปีละ 500-600 ราย แค่คุณขายได้ปีละ 50-60 ราย ก็เพียงพอที่จะเป็นมืออาชีพแล้ว

9.จงตระหนัก ถึงศักยภาพและความรู้เรื่องสินค้าประกันชีวิตที่คุณมี  ไม่สำคัญว่าผู้มุ่งหวังจะเก่งแค่ไหน ถ้าเขาไม่ใช่ผู้ที่เคยศึกษาธุรกิจและสินค้าประกันอย่างถ่องแท้  แน่นอนว่า.. เขาไม่มีทางรู้ดีไปกว่าคุณ

10.ถ้าจะมีผู้มุ่งหวังสักคนต้องการให้คุณ แบ่งค่าตอบแทน คุณควร เน้นไปที่เรื่องทางออกหรือการแก้ไขปัญหา ในเรื่องความความคุ้มครองและการออมเงินเพื่ออนาคตระยะยาวแทน

11.ไม่ง่ายที่จะ ควบคุมความคิด (ไม่ให้คิดเล็ก ไม่ให้คิดลบ)  แต่เมื่อคุณรู้สึกตัวว่า กำลังคิดเล็ก-กำลังคิดลบ นั่นแสดงว่า คุณเริ่มเข้าใจเส้นทางที่กำลังมุ่งไปสู่ความสำเร็จแล้ว  เพราะในดินแดนแห่งความสำเร็จปลายทางจะไม่มีคนคิดเล็ก และคิดลบอยู่เลย  ...เว้นแต่คุณไม่อยากไปอยู่ที่นั่น